วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

You are who you’re with “อยู่ใกล้คนเช่นไร ย่อมเป็นคนเช่นนั้น..



เมื่อวันก่อน รู้สึกเหมือนจะไม่สบาย สาเหตุเพราะอยู่ใกล้ชิดคนป่วยเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ระหว่างที่นอนซมอยู่ก็นึกถึงคำพูดที่ได้ยินกันบ่อยครั้งที่ว่า อยู่ใกล้คนเช่นไร ย่อมเป็นคนเช่นนั้น
          
        จริงอยู่ที่ว่ามันขึ้นอยู่กับตัวเราว่าจะเป็นคนอย่างไร แต่เชื่อเถอะว่า ผู้คนรอบๆตัวที่เราใช้เวลาด้วย พูดคุยด้วย ส่งผลต่อพฤติกรรม ความคิด ทัศนคติ และแนวโน้มความเป็น ตัวเราในอนาคตไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

       หากคุณเป็นคนโง่ในหมู่นักปราชญ์ วันหนึ่งคุณอาจกลายเป็นนักปราชญ์ได้ หากคุณเป็นนักปราชญ์ในหมู่คนโง่ วันหนึ่งคุณอาจกลายเป็นคนโง่ได้เช่นกัน และที่น่ากลัวคือ มันเกิดขึ้นช้าๆจนเราไม่ทันจะรู้ตัวด้วยซ้ำ

        ในบางสถานการณ์เราอาจเลือกผู้คนที่จะต้องเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้ เช่น ในที่ทำงาน ห้องเรียน จงเป็นเพื่อนที่ดีกับทุกคน แต่เลือกเฉพาะ Good People ที่เราจะพูดคุยและใช้เวลาอยู่ด้วย

        แล้วอะไรที่ทำให้คนเหล่านั้นเป็นคนที่ดีที่เราจะใช้เวลาด้วยล่ะ?? ...คนที่ดีในที่นี้ ไม่ใช่นักบุญมาจากไหนและไม่จำเป็นต้องเป็นด้วย พวกเขาอาจเป็นคนที่ใช้เวลาว่างในการทำสิ่งที่มีความหมายต่อตัวเองและผู้อื่น เป็นคนคิดในทางสร้างสรรค์ คนที่สนับสนุนในความสำเร็จของเรา เป็นคนที่สร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากพัฒนาตัวเองให้ดี ยกตัวอย่าง ในที่ทำงาน คนๆนั้นจะเป็นคนที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเสมอ เขาจัดการสิ่งต่างๆ วางแผนงานจริงจังและไม่ล้มเลิกง่ายๆ ซึ่งการอยู่ใกล้ผู้คนเหล่านี้แหละที่สามารถช่วยให้เรากลายเป็นคนคุณภาพได้เช่นเดียวกัน

         ตอนนี้ ลองคิดให้ดีว่าคนที่เราใช้เวลาพูดคุยและอยู่ด้วยนั้น สร้างพลังชีวิต สร้างแรงบันดาลใจให้ เชื่อในตัวเรา ทำให้เรามีความสุขและมีพลังขึ้นมาหรือไม่ หรือเขาคือคนที่คิดในทางลบก่อนเสมอ ไม่ว่าอะไรก็คิดในทางเป็นไปไม่ได้ก่อน คนไม่จริงใจ คนที่บั่นทอนพลังและความสุขที่เรามี เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องกำจัดสิ่งลบๆเช่นนั้นออกจากชีวิตเสียที

         แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้คือ ผู้คนที่ดีและมีคุณภาพก็มองหาคนที่ดีอยู่เช่นกัน ฉะนั้น ถ้าอยากได้คบคนที่ดี ต้องทำตัวเองให้ดีก่อน ก่อนจะอยากได้สิ่งใดๆ ต้องมั่นใจว่าเรามีความสามารถจะให้สิ่งนั้นได้เช่นกัน

         สุดท้ายนี้ ถ้าอยากมีความสุข จงอยู่ท่ามกลางคนที่มีความสุข ถ้าอยากประสบความสำเร็จ จงเป็นคนที่มีแรงขับเคลื่อน และอยู่ท่ามกลางผู้คนที่มีพลังและเป้าหมายเช่นเดียวกัน ผู้คนรอบตัวสามารถเป็นได้ทั้งแรงฉุด และแรงกด ดังนั้น เลือกให้ฉลาด ชีวิตของเรา คือทางเลือกและความรับผิดชอบของเราเอง จงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง และอย่าลืม...ให้สิ่งที่ดีที่สุดกับผู้คนข้างกายที่เราเลือกแล้วเช่นกัน 

#If you want to fly, let go of all the things that weigh you down.

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

A Player vs A Provider คุณอยากได้แบบไหน?



                เวลาที่ออกเดทกับผู้ชายซักคน  คุณเลือกได้ว่า คุณอยากได้ผู้ชายแบบไหน แบบที่เป็นเสือผู้หญิง รักเล่นๆไปเรื่อยๆ หรือ ..ผู้ชายคุณภาพ ที่พร้อมสำหรับความสัมพันธ์ระยะยาว

                ก่อนอื่น คุณต้องตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่า สิ่งที่คุณต้องการคือ อะไร เพราะคำตอบของคุณ จะนำไปสู่การแสดงออกของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว การพูดจา ความคิดอ่าน และการวางตัว 

                หลายครั้งที่ผู้หญิงมาตั้งคำถามกับตัวเองในตอนท้ายสุดว่า ทำไมผู้ชายถึงปฏิบัติกับเราเช่นนี้ และก็คงต้องตั้งคำถามย้อนกลับไปอีกว่า ก่อนหน้านี้ คุณแสดงออกและวางตัวต่อเขาอย่างไร

                หากอยากได้รับความรัก คุณต้องรักก่อน หากอยากได้ความเคารพ คุณต้องแสดงความเคารพก่อนเช่นกัน ไม่ใช่แค่กับคนอื่น แต่กับตัวคุณเองด้วย การเคารพในตัวเองคือ การที่คุณรู้ขอบเขตและคุณค่าของตัวเอง  และพร้อมที่จะปฏิเสธ หากเขาล้ำเส้นเข้ามา

                การตั้งขอบเขต ไม่ใช่ความพยายามจะควบคุมคนอีกคน แต่คือการบอกว่า อะไรที่ยอมรับได้และไม่ได้สำหรับคุณ เป็นสิ่งสำคัญในชี้นำผู้คนว่า ควรปฏิบัติต่อคุณอย่างไร และสิ่งนี้ ถือเป็นความรับผิดชอบที่คุณต้องทำเพื่อตัวเอง
และนี่คือ 2 ขอบเขตหลักๆที่ผู้หญิงโสดทั้งหลายควรมี

     1. รู้ว่า Sex ไม่ใช่เรื่องง่าย

ลองจินตนาการดูว่าเรื่อง sex life ของคุณจะเป็นอย่างไรหากคุณคือ ราชินี?? แน่นอน ราชินี สูงส่ง และเป็นคนสำคัญ เธอมีอำนาจ มีคลาส เธอจัดการกับเรื่อง sex ได้อย่างฉลาด เธอรู้จักควบคุมตัวเอง และรู้ว่า เธอนั้นงดงามและคุ้มค่าแก่การรอคอย ที่สำคัญ เธอจะไม่ทนกับคนประเภทที่ชอบแหกกฎ
มันอาจฟังดูหัวโบราณ แต่ผู้หญิงต้องตั้งขอบเขตในเรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น

2. อย่าติดอยู่ในพื้นที่สีเทาตลอดไป

คุณคู่ควรแค่การออกเดท เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ที่ชัดเจนและจริงจังในระยะยาว พอได้หรือยังกับการติดอยู่ในพื้นที่สีเทาที่ไม่สามารถมองเห็นอนาคตได้ชัดเจน  หากสิ่งนี้รบกวนจิตใจของคุณซึ่งเป็นเหมือนแหล่งพลังงานในการขับเคลื่อนชีวิต ถึงเวลาที่จะต้องเริ่มเปลี่ยนสถานการณ์ ตั้งมาตรฐานของความสัมพันธ์ที่คุณมองหา และสื่อสารให้ชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ที่ เขา มองหา และความสัมพันธ์ที่คุณมองหา เป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่

    สุดท้ายแล้ว คุณผู้หญิง แม้ผู้ชายคนนั้นอาจเดินออกจากชีวิตคุณไป ก็อย่าเสียดาย จะมีประโยชน์อะไรหากเขาไม่ใช่คนที่แคร์คุณและให้เกียรติคุณ หากเขาไม่ใช่ผู้ชายคุณภาพที่คุณควรทุ่มเทให้หลังจากนี้ จงมีมาตรฐานของตัวเอง กล้าที่จะปฏิเสธ ผู้หญิงมีพลัง ที่จะชี้นำผู้ชายว่าควรปฏิบัติต่อคุณอย่างไร และหากเขาไม่เคารพในขอบเขตของคุณล่ะ? คำตอบเดียวที่ฉันมีให้คุณคือ “Show him the “Peace out” door”.


#Own your power, Stick with your standard and Date with dignity. 

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

"I'm not telling you it's gonna be easy, I'm telling you it's gonna be worth it." มันไม่ง่าย แต่สุดท้ายแล้ว มันจะคุ้มค่า



          หลายครั้งที่ผู้คนมักมองหาความสำเร็จ ที่ได้มาง่ายๆ แต่หนทางขึ้นไปสู่ความสำเร็จนั้น  มีขั้นตอนของมัน เหมือนขั้นบันได หากสิ่งที่คุณต้องการ อยู่สูง คุณก็ยิ่งต้องเดินหลายขั้น บางคนพยายามวิ่งเพื่อให้ถึงจุดหมายเร็วที่สุด ซึ่งนอกจากพวกเขาจะพลาดประสบการณ์ระหว่างทางแล้ว ยังอาจเหนื่อยจนเป็นลม ต้องหยุดพักยาวหรือล้มเลิกกลางคันไปเลย

          การจะคว้าความสำเร็จ ไม่ต้องรีบร้อน แต่ต้องสม่ำเสมอ ถ้าคุณเดินขึ้นบันไดทุกขั้นอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถกำหนดระยะเวลาของการไปถึงที่หมายได้ด้วยซ้ำ

          การจะไปสู่เป้าหมายที่หวังไว้ บางครั้ง ผู้คนโฟกัสแต่กับผลลัพธ์ท้ายสุด ซึ่งมีแนวโน้มสูงทีเดียวที่พวกเขาจะต้องล้มเลิกกลางคัน จริงๆแล้ว การตกหลุมรักในขั้นตอนของสิ่งที่คุณต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นด้วยต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญ

          หากผลลัพธ์ที่คุณต้องการคือการลดน้ำหนักให้ได้ 5 กิโลกรัม จงตกหลุมรักในขั้นตอนของการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย หากผลลัพธ์ที่คุณต้องการคือการมี Pocket book เป็นของตัวเอง จงตกหลุมรักในขั้นตอนของการอ่าน การเขียน ซ้ำไปซ้ำมา..

          แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกวันที่คุณจะมีอารมณ์ทำตามแผนที่วางไว้ ยกตัวอย่าง นักฟุตบอลอาชีพในสโมสรระดับโลก อะไรที่ทำให้พวกเค้ายืนอยู่จุดนั้นได้? หนึ่งในนั้นแน่นอนคือ ความมีวินัยและที่สำคัญคือ ความพยายามฝึกซ้อมได้แม้ในช่วงเวลาที่ไม่น่าอภิรมย์ … แน่นอน หากพวกเขาชนะแมตซ์เมื่อคืน พวกเขาคงมีแก่ใจตื่นขึ้นมาซ้อมอย่างหนักได้ตั้งแต่เช้าจรด... แต่ถ้าพวกเขาแพ้ในแมตซ์ล่าสุดล่ะ ความท้อแท้ใจมีมากอยู่แล้ว แต่ต้องดึงตัวเองให้ลุกขึ้นซ้อมอยู่ดี นั่นคือสิ่งที่มืออาชีพต้องทำให้ได้ ลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ต้องทำ แม้ในวันที่อารมณ์ไม่เป็นใจ  

          สุดท้ายแล้ว ความสำเร็จ ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน การที่คุณยังไม่เห็นผลลัพธ์ตามที่คาดไว้ ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีทางสำเร็จ แค่วันนี้ได้ทำตามแผน ขอแค่ยังไม่ล้มเลิก คุณจะยังอยู่ในเส้นทาง และทุกสิ่งยังคงเป็นไปได้เสมอ

#You'll never know what you're capable of until you take that 1st step and go for it.

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

“I’m single, but not available”  โสดนะ แต่ไม่มีที่ว่างสำหรับใคร


               


       หลายๆครั้งเมื่อมีคนถามว่า มีแฟนหรือยัง แล้วตอบว่า ไม่มี คำถามถัดมาของพวกเขาก็จะเป็นว่า ห๊ะ ทำไมถึงไม่มีแฟน??”

               และบ่อยครั้งที่เราคิดในใจ อะไรคือค่านิยมที่ทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่า จะต้องมีคู่เท่านั้นถึงมีความสุขได้ ถึงจะเติมเต็มชีวิตได้ หรือความคิดที่ว่า คนที่โสด ต้องหาแฟน

                ปัญหาของคำถามนี้คือ มันทำให้หลายคนที่ถูกถามรู้สึก หดหู่ตัวเอง บางคนถึงขั้นต้อง sell ตัวเองลง Social Media วันละ 3 รอบ แต่จริงๆแล้ว ปัญหาที่แท้จริงไม่ใช่การไม่มีแฟน แต่คือการไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวอย่างอื่นอีกเลยในชีวิตต่างหาก ถ้าคุณเป็นคนมีเป้าหมายในชีวิต มี passion คุณจะไม่รู้สึกว่า ขาดอะไรไป มากนัก

                เชื่อหรือไม่ว่า คนที่ยังโสดอยู่บางคนก็ไม่ได้คิดว่าการมีใครซักคนเป็นเรื่องจำเป็น แน่นอนว่า การวาดฝันถึงการมีคนรัก เป็นจินตนาการที่สวยงามเสมอ และเมื่อคนที่ใช่เดินเข้ามาในชีวิต บางทีมันอาจมากพอที่จะเปลี่ยนใจได้

                เหตุผลสำหรับการเป็นโสดของคนแต่ละคนนั้น มีไม่เหมือนกัน
บางคนโสดเพราะ ไม่มีใครมาสนใจ
บางคนโสดเพราะ ยังรักสนุก
บางคนโสดเพราะ ยังขังตัวเองอยู่ในวังวนของรักครั้งก่อน
บางคนโสดเพราะ มัวแต่ไปรักคนที่เค้าไม่ได้สนใจ
หรือ บางคนอาจโสดเพราะ ยังไม่เจอคนที่สามารถเข้ามาทวีคูณความสุขที่มีให้เพิ่มขึ้นได้

                เมื่อคุณรู้วิธีที่จะสร้างความสุขได้ด้วยตัวเอง คุณจะไม่ทนกับคนที่ให้คุณได้น้อยกว่านั้น หากคุณรักและรู้คุณค่าของตัวเอง คุณจะไม่ทนกับคนที่ปฏิบัติกับคุณอย่างไม่สมควร เมื่อคุณหยุดมองโลกภายนอกซักพัก แล้วหันกลับมามองโลกภายในตัวเอง คุณจะพบว่า ในตัวคุณ ยังมีอะไรที่สามารถปรับปรุงและพัฒนาต่อไปได้อีกมาก การลงทุนและทุ่มเทกับตัวเอง คือหนึ่งสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด หากยังไม่เจอคนที่คู่ควรกับการทุ่มเทให้ ก็ทุ่มเทกับการพัฒนาตัวเองให้เต็มที่จะดีกว่า

                จริงๆแล้ว ความโสด ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ไม่อยากให้คนที่ยังโสดรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องน่าหดหู่ จนกลายเป็นค่านิยมกันไป หากรู้ตัวว่าคุณมีความสมบูรณ์ได้ด้วยตัวเอง และยังสามารถเผื่อแผ่ความสุข รวมถึงนำสิ่งดีๆไปสู่ชีวิตคนอื่นได้อีก จงรู้ไว้ว่า คุณคือ ทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า ที่พร้อมจะรัก และสมควรได้รับความสุขจากความรักนั้นอย่างคู่ควรเช่นกัน  


#It’s not very hard to sacrifice everything for someone, but it’s hard to find someone WHO DESERVE YOUR SACRIFICE. 

Be confident! ปลุกความมั่นใจในตัวคุณ


          เคยไหม? ไม่มั่นใจเลยเวลาต้องออกไปรายงานหน้าชั้นเรียน ไม่มั่นใจเลยเวลาต้องสนทนากับคนที่ไม่สนิท หรือไม่มั่นใจเลยเวลาที่ต้องถูกสัมภาษณ์งาน

         สาเหตุหลักๆของความไม่มั่นใจในตัวเอง มาจากความไม่เชื่อใจในศักยภาพและความพิเศษเฉพาะตัวของตัวเอง คนบางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีอะไรดี ชอบอะไร ถนัดอะไร จุดอ่อนที่ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นคืออะไร ถ้ายังรู้จักตัวเองน้อยขนาดนี้ คงไม่แปลกถ้าจะไม่เชื่อใจตัวเอง

   เมื่อหลายวันก่อนมีเพื่อนคนหนึ่งถามว่า จะทำอย่างไรให้รู้สึกมั่นใจในตัวเองได้บ้าง คำตอบสำหรับคำถามนี้ ทำได้ไม่ยากเพียงแต่ต้องอาศัยการฝึกฝน และเวลา

เราเรียกความมั่นใจให้ตัวเองได้ ด้วยการ
สร้างความนับถือตัวเอง
ภูมิใจในตัวเอง
มองเห็นข้อดีและศักยภาพของตัวเอง
ให้เกียรติตัวเอง และ
รักตัวเอง

          ลิสต์ข้างต้นอาจฟังดูนามธรรมเกินไป หากจะพูดให้เป็นรูปธรรมแล้ว การจะเรียกความมั่นใจให้ตัวเองนั้น เราต้องลงทุนและทุ่มเทให้กับตัวเองเสียก่อน (หาความรู้ สกิลใหม่ๆใส่ตัว ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอฯ) คนเรามักเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตนเองลงทุนทุ่มเทให้ หากเรารู้ว่าเราทุ่มเทให้กับตัวเองมากเท่าไหน เราก็จะเห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อเราเห็นคุณค่าในตัวเอง ความมั่นใจจะเกิดขึ้นได้โดยอัตโนมัติ


            ท้ายที่สุดที่อยากฝากไว้ อย่ารู้สึกแย่กับตัวเอง อย่าน้อยใจในโชคชะตา อย่าคิดว่าเราไม่มีโชคหรือไม่มีโอกาสอย่างคนอื่น  เราแค่ต้องรู้จักผลักดันตัวเอง ปรับปรุงพัฒนาตัวเอง มองเห็นคุณค่าตัวเอง และที่สำคัญ สร้างคุณค่าให้ตัวเองด้วยการทำสิ่งดีๆที่ตัวเองจะมีความนับถือและภูมิใจในตัวเองได้นั่นเอง

The future’s not ours to see... "อนาคตไม่ใช่สิ่งที่เราจะมองเห็นได้"


เคยไหม? อกหัก โดนทิ้ง ทั้งเหนื่อยทั้งเจ็บแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือที่เกาะขาคนๆนั้น ลังเลว่าจะเลิกดีไหม แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้เสียที

          แล้วลองจินตนาการว่ามีนางฟ้าจากโลกอนาคต บอกว่า คุณจะได้พบคู่แท้ ในอีก 7 วันข้างหน้า หากนางฟ้าแสดงให้เห็นภาพที่คุณกำลังยิ้มอย่างมีความสุข พร้อมกับดอกกุหลาบช่อโตในมือ เบื้องหน้าคือเนื้อคู่ของคุณ รูปร่างหน้าตาของคนผู้นั้นดูงดงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย รอยยิ้มและดวงตาเป็นประกายกำลังทอดมองมาอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากสีชมพูแสนหวานกำลังเผยอบอกรักคุณ วินาทีนั้นคุณรู้เลยว่า คุณเจอคนที่ใช่ที่สุดแล้ว เพียงแต่ว่า เงื่อนไขมี 1 ข้อ นั่นคือ คุณต้องเคลียความรู้สึกหม่นๆทิ้งให้หมด และทำตัวเองให้มีความสุขจนกว่าจะถึงวันนั้น คุณคิดว่า คุณจะยังเกาะขาคนเดิมนั้นไว้อยู่อีกหรือไม่?

          มีแนวโน้มสูงทีเดียวที่คุณจะตัดใจและเลือกปล่อยคนเก่าได้ง่ายขึ้น เหตุผลก็เพราะ คุณได้เห็นภาพของตัวเองในอนาคตที่ได้รับสิ่งที่ดีกว่า หรืออย่างน้อยที่สุด ไม่ได้เหลืออยู่ตัวคนเดียว การการันตีว่าเราจะได้รับสิ่งๆหนึ่งที่เราต้องการอย่างแน่นอนนั้นเป็นแรงผลักดันชั้นเยี่ยมที่ทำให้คนๆหนึ่งลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ต้องทำ เพื่อที่จะให้ภาพที่ต้องการให้เกิดขึ้นนั้นกลายเป็นความจริง

appreciate the power of your mind

           หากแต่ในโลกความเป็นจริงนั้น ไม่มีนางฟ้า ไม่มีลูกแก้ววิเศษที่แสดงอนาคตให้เราเห็น ไม่มีการการันตีอะไรทั้งสิ้นว่าอนาคตจะเกิดหรือไม่เกิดอะไรขึ้น แล้วเราจะทำอย่างไร? เคยได้ยินไหมว่า “If opportunity doesn’t exist, build the door” หากไม่มีโอกาส ก็แค่สร้างมันขึ้นมา สิ่งที่ฉันกำลังจะบอกก็คือ คุณสร้างภาพอนาคตของตัวคุณเองได้ ด้วยความสามารถพิเศษที่คุณมีมาตั้งแต่เกิด นั่นคือ จินตนาการ

           เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายใดๆก็ตามในชีวิต จินตนาการภาพอนาคตที่คุณต้องการให้เกิดขึ้นจริงให้ชัด ใส่ความเชื่อมั่นลงไปให้เต็มร้อย จนกระทั่งคุณเชื่อจริงๆว่า มันคืออนาคตที่จะเกิดขึ้นจริงแน่ เชื่อหรือไม่ว่า กระบวนการและผลลัพธ์ของการกระทำเช่นนี้ แทบไม่ต่างอะไรกับเรื่องสมมติข้างต้นก่อนหน้านี้เลย สิ่งสำคัญคือ ไม่ว่าสิ่งที่คุณต้องการในชีวิตจะเป็นเรื่องอะไร คุณต้องเชื่อมั่นในความศักยภาพและความพิเศษของตัวเอง เชื่อในภาพที่คุณจินตนาการขึ้นว่ามันจะเกิดขึ้นจริงแน่ ไม่ว่าจะกับเรื่องใดๆ เมื่อคุณมีความเชื่อ เมื่อคุณเห็นภาพที่คุณต้องการในอนาคตอย่างชัดเจน  คุณจะหาวิธีได้เสมอและจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้มันมา

เชื่อเถอะว่า อนาคต คุณสร้างได้! J

 สิ่งที่เรามองไม่เห็น ไม่ใช่ว่าจะไม่มี การที่เรามองไม่เห็นอนาคต ไม่ได้หมายความว่ามันจะสวยงามน้อยกว่าอดีตที่ (เคย) งดงาม เราเห็นอดีต เห็นว่ามันเคยสวยงาม เราจึงโหยหามัน แต่เราไม่เห็นอนาคต จึงไม่รู้ว่ามันสามารถสวยงามได้มากกว่าเพียงใด คงน่าเสียดาย หากผู้คนเลือกที่จะจมกับอดีตหรือความผิดหวังที่ผ่านพ้นไปแล้ว มากกว่าทำปัจจุบันนี้ให้ดีเพื่อก้าวไปสู่อนาคตและได้รับในสิ่งที่ล้ำค่ากว่า แค่เพราะพวกเขาไม่มีลูกแก้ววิเศษเพื่อจะเห็นมันได้ก่อนเท่านั้นเอง

"All we know, is Touch and Go" แตะแล้วไป... เร็ว ง่าย สไตล์คนรุ่นใหม่??



โลกยุคใหม่ที่อะไรๆรวดเร็วไปหมด มันทำให้คนหลายคนเป็นตามไปด้วยจริงหรือ..

         ปฏิเสธไม่ได้ว่าในเรื่องบางเรื่อง เราต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมยุคนี้  แต่สำหรับบางเรื่องก็ยังคงต้องใช้เวลาอยู่ดี...

         เรามักพูดกับคนที่สนทนาด้วยเสมอว่า  หลายคนเดี๋ยวนี้มักง่ายขึ้น ความอดทนในการรอต่ำลง อะไรได้เร็วเอาอันนั้นก่อน ลามไปถึงในเรื่องของความสัมพันธ์ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ คอนเซป “เร็วและง่าย” ไม่แปลกที่เรื่องราวของคนหลายคู่เป็นได้แค่ “touch and go” สังคมออนไลน์ทำให้ผู้คนติดต่อและเข้าถึงกันได้รวดเร็วเหลือเชื่อ ทำให้คุณค่าของความรู้สึกบางอย่างมันหายไป เพราะไม่ทันได้มีเวลาให้นั่งหยุดคิด หยุดรอ และหยุดเพื่อรู้สึกจริงๆ

       ตัวเลือกก็มีอยู่มาก การจะเข้าหาใครซักคนสมัยนี้ง่ายยิ่งกว่าเดินไปหยิบกล้วยมาปอกเข้าปากเสียอีก หลายคนเลือกคู่กันในโลกออนไลน์ คล้ายๆเลือกซื้อเครื่องแต่งตัว  ผลที่ตามมาจากความง่ายนี้ก็เป็นต้นว่า ไม่พอใจ ไม่ได้ดั่งใจ ก็ลบทิ้งแล้วหาใหม่ หรือ อย่าได้หายไปเชียว สามสี่วันกลับมาอีกทีเค้าก็อาจไปกับคนอื่นแล้ว ..(???)

…คุยกัน เลิกคุย คุยคนใหม่ เลิกคุยอีก … 

        นี่กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วหรือ ถ้าลองเทียบย้อนไปในยุคสมัยของปู่ย่าตายาย เราจะเริ่มรู้สึก “ตกใจ” กับความง่ายและเร็วของความสัมพันธ์ตามแบบฉบับสังคมยุคใหม่นี้ได้แล้วหรือยัง

...ไม่ผิดหรอกที่เราจะมีตัวเลือกมากมาย 
...ไม่ผิดหรอกที่เราจะเปลี่ยนตัวไปตามเทคโนโลยี 
แต่ในเรื่องของความรัก ยังคงเชื่อว่า เป็นเรื่องที่ต้องการเวลา

         กับเรื่องความรัก อย่ารีบร้อน อย่าง่ายเกินไป อย่าทำตัวเป็นเหมือนเป็นโทรศัพท์มือถือที่ไม่มีรหัสผ่าน ถ้าคุณไม่ได้อยากเป็นแค่ “ A Slide to Unlock”  วิธีสแกนคนที่จริงจังสมัยนี้ง่ายนิดเดียว ดูให้นาน อย่ารีบ อย่าง่าย แล้วไม่นานหรอก คนพวกนี้จะหายไปจากชีวิตเราเอง ใครจะเดินเข้ามาหรือเดินออกไปจากชีวิตของเราก็ปล่อยเค้า ไม่ต้องเร่งตัวเองไปตามเค้า แล้ววันหนึ่ง เมื่อคุณได้พบกับคนที่เข้ามาแล้วทำให้โลกที่หมุนเร็วนี้ช้าลง คนที่มั่นคงมากพอที่จะไม่รีบหันไปทางอื่นง่ายๆ วันนั้นคุณจะรู้ว่า คนนี้แหละ ตัวจริงของคุณที่ไม่อยากปล่อยให้ผ่านไป

#Now all we know, is Don’t Let Go ;)

Life is a journey "หากชีวิต คือการเดินทาง"


เราทุกคนล้วนเริ่มออกเดินทางตั้งแต่วันแรกที่เกิดมา วัยเด็กเป็นวัยที่เราสะสมประสบการณ์ วิ่งเล่นไปทางนั้นทีทางนี้ทีโดยไม่ต้องคิดถึงจุดหมาย จนเมื่อถึงวัยหนึ่งที่ชีวิตเดินทางมานานพอควร พอที่จะต้องตั้งคำถามกับตัวเองอย่างจริงจังว่า "จริงๆแล้ว เราจะไปที่ไหน ??”

หากไม่อยากเป็นคนหลงทิศ สับสนกับชีวิตอยู่เรื่อยไป เราต้องหาเป้าหมายให้ตัวเอง เมื่อรู้ว่ากำลังจะไปที่ไหน เราจะรู้ว่าต้องไปทางไหน และหาวิธีว่าจะไปให้ถึงได้อย่างไร ไม่สำคัญว่าเราจะหลงทางไปกี่สิบกี่ร้อยครั้ง เพราะในทุกความผิดพลาดล้วนได้การเรียนรู้ติดมาด้วยทั้งสิ้น สิ่งที่สำคัญกว่าคือ เราต้องรู้เสมอว่า เรากำลังจะไปที่ไหน”…

หากชีวิต คือการเดินทางไกล สัมภาระบางอย่างที่ไม่จำเป็นก็ต้องทิ้งไปบ้าง
การแบกทุกสิ่งไว้จะทำให้เราเหนื่อย และเดินได้ช้าลงอย่างไม่จำเป็น

สำหรับผู้ร่วมเดินทาง หรือผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หากพบคนที่ดี พูดคุยกันถูกคอ ก็คบกันไว้ เป็นเพื่อนเป็นกำลังใจให้กันไปในระหว่างทาง หากเจอไม่ดี ไม่ใช่ ปล่อยมือไปบ้างก็ได้...
อย่าพยายามดึงรั้งใครให้เดินไปกับเรา หากเขาไม่เต็มใจ และเราจะเหนื่อยเอง คนอื่นไม่ควรมีผลจนทำให้เราต้องหยุดเดิน หากเราไม่ลืมคำถามสำคัญข้างต้น เราก็จะไม่มีวันหลงทางไปได้ง่ายๆ อย่าประมาทกับชีวิต เมื่อชีวิตนี้เป็นของเรา เราทุกคนจึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการตัดสินใจและการกระทำของตัวเอง

เสียเวลากับการหลงทาง ยังได้บทเรียน และไม่น่าเสียดาย เท่าเสียเวลาไปกับการคร่ำครวญหาอดีตที่เดินผ่านมาแล้ว และการกังวลเกินไปกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง การกระทำเหล่านี้นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์ ยังเป็นเครื่องบั่นทอนกำลังชั้นดีอีกด้วย


สุดท้าย ในการเดินทางของชีวิต ไม่ได้จะมีแต่วันที่อากาศอบอุ่นและสดใส มันอาจมีบางวันที่พายุเข้า ฝนตกกระหน่ำ นั่นเพราะความท้าทายของชีวิต ไม่ใช่การเดินยิ้มท่ามกลางท้องฟ้าที่สดใสทุกวัน  หากแต่เป็นการเต้นรำกลางสายฝนแม้ในวันที่สภาพอากาศไม่เป็นใจได้อย่างมีความสุขด้วยนั่นเอง